สาย.หมอกหม่นเมฆบังทั่วทั้งฟ้า
แสงเคยจ้าส่องสาดก็คลาดเคลื่อน
ค่ำ.ความหม่นความหมองของดาวเดือน
ช่างหม่นเหมือนกับใจในคืนนี้
ผู้แบกโลกอยู่ต่ำคำครูสอน
ยังสะท้อนตราตรึงมาถึงที่
ตอกย้ำอยู่โดยนัยความไยดี
จึงเหมือนมีมุมใหม่ให้ทบทวน
ช่วงชีวิตผิดแพ้ไม่แก่กล้า
ท่านให้หาเหตุนั้นที่ปั่นป่วน
ปัจจัยให้เหตุเกิดก็สมควร
ตั้งหลายส่วนให้สมสู่คมคิด
หากรู้รอบตอบโจทย์ประโยชน์ยิ่ง
ล้วนทุกสิ่งในตนให้จนจิต
เป็นผู้พบผู้พรางผู้ถางทิศ
เห็นผู้ปิดผู้เปิดเกิดปัญญา
แต่คนเขลาคำครูรู้แค่นี้
ได้เท่าที่ซมซานไม่หาญหา
ให้ห่างเห็นวันคืนควรชื่นตา
รังแต่ล้าเรื่อยไปไม่พบพ้น
ผ่านชีวิตเติบใหญ่วัยฉกรรจ์
ทำความฝันห่างหายก็หลายหน
เหลือแต่รอยหลงร้างกลางกมล
ย้ำอยู่ทนอับอายลมหายใจ
ผู้หลับอับอ้อมฝันวันวิจิตร
จะหาทิศหาทางก็ว้างไหว
ดั่งเรือน้อยลอยเร่ทะเลไกล
ถึงฝั่งหน้าฟ้าไหนยังไม่รู้!
ธรรมดา
๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น