ชายหนุ่มและหญิงสาว
มีถนนทอดสู่ดวงดาวอยู่เบื้องหน้า
ให้เธอบันทึกถึงเรื่องราวและกาลเวลา
ให้เธอบันทึกถึงเรื่องราวและกาลเวลา
ที่เธอเดินทางมาและมุ่งไป
เธอ..มีเรี่ยวมีแรงกล้าปลุกเร้า
หกล้มก็ชันเข่าขึ้นมาใหม่
ด้วยว่าเธอปฏิเสธจะท้อใจ
ด้วยว่าเธอปฏิเสธจะท้อใจ
เมื่ออยู่ในวิถีนักเดินทาง
เธอ..มีรุ่งพรุ่งนี้ของชีวิต
โดยรู้ทางรู้ทิศทุกก้าวย่าง
เคยร้าวเคยรอนก็ซ่อนพราง
เคยร้าวเคยรอนก็ซ่อนพราง
รู้ปล่อยรู้วางในบางที
เธอ..มีใจและมีจินตนาการ
เป็นความหวังความหวานซึ่งไหวถี่
เป็นนักสู้ผู้เสพสุนทรีย์
เป็นนักสู้ผู้เสพสุนทรีย์
เชื่อมั่นว่ายังมีดอกไม้บาน
ซึ่งความงามความฝันจะบรรเจิด
ซึ่งความงามความฝันจะบรรเจิด
พาไปสู่ความเป็นเลิศในทุกด้าน
จะค่อยเริ่มนฤมิตจิตวิญญาณ
จะค่อยเริ่มนฤมิตจิตวิญญาณ
ประสบการณ์ก็จะเกื้อเป็นเชื้อไฟ
สร้างดาวคนละดวงให้ช่วงแสง
ยิ่งไฟแรงดวงดาวยิ่งวาวไสว
ใช้ความรักเป็นน้ำเลี้ยงกำลังใจ
ใช้ความรักเป็นน้ำเลี้ยงกำลังใจ
เดินผ่านดงดอกไม้ลดามาลย์
เธอ..จะเขียนคำกวีวาดและไหว
เล่าเรื่องแห่งหัวใจสวยอ่อนหวาน
ณ คืนวันที่ช่วงวัยโชติชวาล
ณ คืนวันที่ช่วงวัยโชติชวาล
เป็นทิพย์ธารน้ำใสให้ซึมซับ
มีแสงนิลเนตรแห่งหนึ่งแรงห่วง
ส่องแทนดวงดาวเมื่อดาวเหนือหลับ
มีความรักรินหยาดระยิบระยับ
มีความรักรินหยาดระยิบระยับ
เป็นแรงขับจากใจใครหนึ่งคน
เธอ..ต้องเติบตนจากต้นกล้า
เธอ..ต้องเติบตนจากต้นกล้า
ผ่านยุคการแสวงหาอันสับสน
พบต้นแบบผ่านบทการอดทน
พบต้นแบบผ่านบทการอดทน
จนรู้เหตุรู้ผลโดยพ้องพาน
ต้องรู้ผ่านร้อนและผ่านหนาว
หล่อหลอมจนเป็นหนุ่มสาวกร้าวและกร้าน
หลุดพ้นจากพันธนาการ
หลุดพ้นจากพันธนาการ
โดยเสรีโลดทะยานผ่านเวลา
เดินทางไปตามความคิดฝัน
ให้ชีวิตมีสีสันตามปรารถนา
พบดวงดอกไม้ในดวงตา
พบดวงดอกไม้ในดวงตา
ซึ่งจะมาประดอกในดวงใจ
ขอให้เธอก้าวผ่านและหลุดพ้น
ผ่านถนนของหนุ่มสาวร่วมสมัย
ขอให้เธอมีฝันและมีไฟ
ขอให้เธอมีฝันและมีไฟ
เป็นแรงส่งให้เธอไป.ถึงดวงดาวฯ
.....................................................
ลงในคอลัมน์กวีลีลา นิตยสารALL Magazine
ปีที่ 4 ฉบับที่ 5/กันยายน 2552