คงเพราะซึ้งในคำพร่ำเพรียกหา
แห่งหนใดไม่ห่างไม่ร้างลา
ไม่อาจฟ้ากั้นกรงวงศ์กวี
ผู้เรียงร้อยสร้อยศิลป์จากจินต์นั้น
ต่างผูกพันในรสบทบายศรี
จึงวิญญาณหวานไหวใกล้เสรี
รื่นรับกับวิถีแห่งชีวิต
ตื่นตามองทองทาบที่อาบอิ่ม
ด้วยรอยยิ้มย้ำเยือนยังเตือนติด
ในบทบรรณเช้าซึ่งตรึงความคิด
ไม่สักนิดไม่น้อยในรอยนั้น
รอยเท้าที่ก้าวก่อนกับอ่อนหวาน
บอกทุกการก้าวไปดวงใจฝัน
เห็นฟ้าพริ้มดาวพรายรำบายจันทร์
และคืนอันมืดมนบนเส้นทาง
ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวเป็นราวรุ้ง
พาดพยุงเยือนหล้ากับฟ้าสาง
เพื่อมวลมิตรมวลชนคนอับปาง
จะก้าวย่างยินดีมีกำลัง
สร้อยอักษรเซ่นสรวงจากดวงจิต
นิรมิตมุ่งงามและความหวัง
ดุจเชื้อแสงแรงลดการบดบัง
ให้ใจรั้งโลกฝันอันเสรี
ธรรมดา
๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๘
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น