ขอบคุณคนคุ้นเคยที่เคียงข้าง
ขับข้องความอ้างว้างระหว่างหวัง
ดุจแสงเช้าชุ่มกายผู้พ่ายพัง
ขณะนั่งในหนาวและร้าวราน
สองมือมั่นไมตรีที่โอบเอื้อ
ด้วยจุนเจือจากใจไหลรินผ่าน
อักษราเรืองพรแห่งกลอนกานท์
ก็ผสานซึ่งโศกคราโลกลวง
........เพื่อนรัก
ต่างตระหนักพิษภัยอันใหญ่หลวง
ครั้งใจคนหม่นไหม้ไฟสุมทรวง
ช่างหนักหน่วงเหนื่อยล้าน้ำตาคลอ
คืนมืดนั้นยืดยาวกว่าคราวก่อน
ร้างสัญจรทางใจอยู่ไหนหนอ
จ่อมจมระงมเหงาและเฝ้ารอ
ต้องชุบช่อชีวิตสู่ทิศใด
คืนความหวังทั้งที่โศกในโลกลึก
ผู้ผนึกน้ำตามาฝันใฝ่
พยายามหยัดยืนอย่างฝืนใจ
บนโลกไร้ขอบเขตเจตนา
เพื่อทิศทางวางวาดโดยธาตุแท้
สู่กระแสสร้างตนอย่างคนกล้า
ลุกลำดับขับขานกาลเวลา
แล้วทวงค่าคนจริงจะยิ่งยืน
ธรรมดา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น