วันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2561

๏ ต้นสาย-ปลายทาง


                     ครั้งหนึ่งเคยหลงทางกลางท้องทุ่ง
                     หลงฟ้ารุ้งเรืองลออทอถัก
                     ป่าเขาเขียวเทียวธารเคยผ่านพัก
                     ซึ่งฟูมฟักจิตใจและไมตรี

                     คือความงามตามบทคนบ้านป่า
                     ดินน้ำฟ้าเกลียวกลมสมศักดิ์ศรี
                     ต่างผูกพันกันก่อเพียงพอดี
                     ตามวิถีเวิ้งว้างห่างเมืองกรุง

                      เมื่อสมมุติฉุดฉันในวันหนึ่ง
                      ทิ้งทางซึ่งสันโดษจะโรจน์รุ่ง
                      กล่อมการไปจากป่ามาปรับปรุง
                      จำต้องมุ่งมั่งมีดีกว่าเดิม

                       คนบ้านป่ามาไกลไฟความฝัน
                       ด้วยวันนั้นในรู้สึกซึ่งฮึกเหิม
                       ยิ้มละไมไม่ท้อการต่อเติม
                       ทั้งริเริ่มและร้างกลางเมืองคน

                        ล้มลุกหลายเส้นทางระหว่างหวัง
                        และหลายครั้งเริ่มล้าเหมือนฟ้าหม่น
                        มองความหมายหลายด้านการดิ้นรน
                        เริ่มสับสนทุกทีกับชีวิต

                        ครั้งหนึ่งเคยหลงทางกลางเมืองใหญ่
                        หลงวิไลลวงตาว่ามีสิทธิ์
                        วามจริงทิ้งความฝันมันมืดมิด
                         แท้หลงผิดเพียงตนคนเดินดิน

                         การไปถึงซึ่งฝันมันไม่ง่าย
                          เหมือนถมทรายลง'เลหรือจะบิ่น
                          เมืองยิ่งใหญ่ยิ่งไร้น้ำใจริน
                          เหมือนมลทินท้องฟ้าที่พร่ามัว

                          เยื่อใยใจมนุษย์ชำรุดหลับ
                          เมื่ออยู่กับหน้ากากซากสลัว
                          จึงถอดทิ้งทางไทแก่ใจตัว
                          สำนึกทั่วถึงถิ่นดินน้ำฟ้า

                           คิดถึงบ้านผ่านภาพความอบอุ่น
                           ตักเคยคุ้นคำใจในห่วงหา
                           หนักหน่วงช่วงไหนหนอในน้ำตา
                           ลูกแม่จ๋าถึงท้อแต่พอเพียง

                           คำอาทรก่อนการก้าวกลับหลัง
                           หากกล้ำกลืนคืนฝั่งมาฟังเสียง
                           พลงสายลมโลมร่ำใส่สำเนียง
                           จะจำเรียงขวัญขื่นให้ชื่นบาน

                           ตะวันเคลื่อนคล้อยบ่ายบนฟ้ากว้าง
                           ความเวิ้งว้างวาดวันอันอ่อนหวาน
                           แมกไม้สายน้ำใสละไมมาน
                           ซึ่งกล่อมการกลับป่ามาเตือนตน

                           อ้อมกอดแห่งขุนเขาเข้าโอบอุ้ม
                           มากมิตรรุมล้อมเรียงเสียงสับสน
                           สารสุขทุกข์เข็ญความเป็นคน
                           เพื่อจะพ้นพบพร่างกลางดวงแด
 
                           สัมผัสเพลงกล่อมกล้าการมาถึง
                           ห้วงคำนึงหวานไหวในกระแส
                           พ้นภาระรุ่มร้อนความอ่อนแอ
                           ที่ผันแปรเปลี่ยนเป็นเช่นกำลัง

                            เพื่อปลุกเร้าแรงคนขึ้นมาใหม่
                            จึงชูใจจมเจ็บเก็บความหวัง
                            สู่สายตาท้าทายทุกพ่ายพัง
                            แล้วลุกหยั่งยินดีฟ้าสีทอง

                             เส้นสัญจรจากนั้นพลันปรากฏ
                             แจ้งจรดลำเนาแห่งเผ่าผอง
                             ผ่านภาพฝันวันหวังเคยรังรอง
                             ซึ่งสอดคล้องแต่ตนบนความจริง.

                                                                                      บันทึกต้นสาย-ปลายทาง(เขื่อนน้ำงึม2 ถึง ฮิโรชิม่า)

                                                             ธรรมดา
                                                                    ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๗                                                               

 
  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น