มิอาจรู้โลกแล้งหรือแสงสี
อ่อนแอแพ้หัวใจเหมือนไม่มี
ว่ายวิถีเวิ้งว้างกลางคืนวัน
..
ฝ่าอีกฝั่งฟองคลื่นสะอื้นหลับ
ไม่อาจนับเวลาหาความฝัน
หลงงมเงาเก่าร้างกลางแสงจันทร์
จึงใจนั้นหนักหน่วงในห้วงกาล
ผู้กล้ำกลืนฝืนฝ่าชะตาโลก
ในเงาโศกสิ้นซึ้งซึ่งความหวาน
ดอกไม้หม่นทนท้อทรมาน
จึงอาจกร้านกว่าอุ่นที่จุนเจือ
ท้อธารที่ไปไม่ถึงฟ้า
วาสนานักเดินทางช่างร้างเหลือ
ท่ามทะเลเร่ร่อนลำเรือ
ลอยอยู่เหนือน้ำวนผจญภัย
ชะตาฝ่าคลื่นเห่ทะเลร้าย
มองจุดหมายมืดตากับฟ้าใส
อาจอับปางร้างลงตรงที่ใด
ก่อนแสงใหม่มิ่งฟ้าจะมาเยือน
เราเคยฝันถึงฟ้าอาณาจักร
สายธารรักเรืองรุ้งพุ่งเสมือน
เคียงคล้ายห้วงหาวกับดาวเดือน
บัดนี้เคลื่อนคอยหาน้ำตาคลอ
..
นั่นหรือรักหักเหด้วยเล่ห์โลก
จึงรู้โศกรู้เศร้าโอ้เราหนอ
หลงฟ้ากว้างกว่ากว้างคว้างคอยรอ
เหมือนนกท้อทางฟ้าชะตาตน
ธรรมดา
๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น