ดอกรักร้างทางรักมักสิ้นชื่น
ต่อให้ตื่นตาตวงแต่ทรวงเศร้า
ฝังใจจำจากสิ่งเคยพริ้งเพรา
แม้เมื่อเก่าก็ใกล้ในคำนึง
..
นกไม่หวนคืนคอนตอนพลบค่ำ
ฟ้าไม่ต่ำแต่นิดก็คิดถึง
เพียงพิษรักหนักหนาให้ตราตรึง
ต่อภาพซึ่งผุพังยังอาวรณ์
หากรักล้นลงจมจะขมหวาน
จะเนิ่นนานหนักนิ่งดังสิงขร
แม้นไม่คู่เคียงฝันนิรันดร
แต่อาทรท่วมท้นจนตัวตาย
เมื่อมั่นคงความรักภักดิ์สมร
จะอาวรณ์ตราบสิ้นดินสลาย
ตราบคืนค่ำแห่งฟ้าทิวาวาย
ซึ่งหาใช่สุดท้ายที่ตายตน
..
สู่รู้สึกนึกน้อมกล่อมแก้วตา
หลับใหลใฝ่นิทรา ณ แห่งหน
ป่านฉะนี้จักสุขหรือทุกข์ทน
รัตติกาลม่านหม่นเมื่ออาลัย
จะอาวรณ์ตราบสิ้นดินสลาย
ตราบคืนค่ำแห่งฟ้าทิวาวาย
ซึ่งหาใช่สุดท้ายที่ตายตน
..
สู่รู้สึกนึกน้อมกล่อมแก้วตา
หลับใหลใฝ่นิทรา ณ แห่งหน
ป่านฉะนี้จักสุขหรือทุกข์ทน
รัตติกาลม่านหม่นเมื่ออาลัย
ห่มวิโยคโลกหลากซากกำสรวล
ประหนึ่งล้วนแหลกลับกับมอดไหม้
ค่ำเช้าช่างหนาวเนิ่นเผชิญใจ
ดุจโลกไร้สิ่งสุขทุกเวลา
หวีดหวิวพลิ้วผ่านเสียงสำเนียงศิลป์
ฟ้าสู่ดินใดเล่าเฝ้าห่วงหา
วิเวกห่มลมหนาวดาวน้ำตา
วาสนานิ่งนั้น,นิรันดร
..
ธรรมดา
๒๕/๒/๒๕๕๕
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น