แสบด้วยแสงแห่งตาวันอันเจิดจ้า
ฉานแสงโชนวับวิบขลิบขอบฟ้า
หวั่นเหว่ว้าหวิววับทับฤทัย
เหมือนดอกจานบานสล้างเกลื่อนกลางทุ่ง
ปรับแต่งปรุงทุ่งแวววามงามสดใส
ผลิดอกบานสานความหวังพลังใจ
ดุจดั่งไฟโชนแสงหน้าแล้งร้อน
จากรังสีคลี่คิมหันต์อันแผดผิว
พลันพลิกพลิ้วริ้วร้อนคลายค่อยถ่ายถอน
ชวนเชิดโชนปนปรุงรุ้งทองปอนด์
ดุจดั่งพรดับแล้งแห่งร้อนร้าว
คืนและวันผันพรูฤดูเปลี่ยน
ลมหวานเวียนสานผสมผ่านลมหนาว
เหมือนสายทิพย์พริบฝันอันเพริศพราว
พรจากดาวเด่นเดือนเตือนอารมณ์
(๒)-ครั้นแรกก้าวเข้ามหาอาณาจักร
รื่นสำลักหวังหวานซ่านความขม
แทนสรรเสริญเพลินพะนอคลอคำชม
อาจระบมบ่มท้อทรมาน
แต่ทุกถ้อยคำคมคารมปราชญ์
“อย่าเขลาขลาดคล้อยตามลมชมความหวาน
ต้องทะนงคงความฝันอันตระการ
กว่าผลผลิกลีบเบ่งบานเกลื่อนก้านใบ
ทุกชีวิตจักมีค่าต้องกล้าอยู่
หันหน้าสู้แสงตะวันอันโชนใส
ชีพมิสิ้นดิ้นสุดแรงชีพแกว่งไกว
จึ่งจักได้ฝันสีทองอันผ่องเพรา”
(๓)-เธอเดินทางห่างไกลมากจากวันก่อน
ต้องไม่ย้อนไปกล้ำกลืนคลื่นความเศร้า
หันหน้าสู้แสงตาวันอันแรงเร้า
เพื่อครรลองปองเรา..คว้าดาวทอง !
ประพันธ์โดย: ราตรี ประดับดาว (ประยอม ซองทอง)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น